วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การใช้น้ำอุ่นอาบน้ำให้เด็ก มีผลต่อผิวเด้กอย่างไร

ดังนั้น การจะใช้กฎอุดมคติของวิทยาศาสตร์ได้จะต้องมีประสบการณ์ปรับเงื่อนไข และเหตุปัจจัยต่างๆ ดังนั้น จึงต้องการผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ปรับกฎเหล่านั้นมาใช้ไต้กับสสารที่เป็นจริงตามธรรมชาติหรือไม่ก็ต้องทำสสารให้บริสุทธี้นยางธรรมชาติที่ความบริสุทธึ๋ของสสารมีเงื่อนไขที่แปรมากมาย ไม่ใช่ว่าความบริสุทธิ้จะมีไต้มาตรฐานเดียว สสารหนึ่งชนิดจึงต้องการผู้ชำนาญการนำสารให้บริสุทธิ้วิทยาศาสตร์จึงต้องการผู้ชำนาญการคล้ายปัจจัตดัง เวทิดัพโพเส์ยวเห็นเองจิตติอจประพฦติตาบกฎอุดมคติพุทธบริษัทจำนวนไม่น้อย ที่มีความศรัทธาต่อกฎแห่งกรรม ซึ่งกล่าวว่า ทำดี ย่อมดี ทำชั่ว ย่อมชั่ว แต่จำนวนไม่น้อยอีกเช่นก้นยังคลางแคลง เพราะเห็นว่าคนทำผิดศีลได้ดีก็มีถมไป จนกระทั่งผู้รู้ต้องหาวิธีอธิบายว่า ทำไมเขาจึงได้ดี ทั้งๆ ที่มีหลักฐานศีลของเขาไม่ดี แสดงว่ามีเงื่อนไขที่จำเป็นต้องปรับกฎแห่งกรรมกับสภาพชีวิตจริงกฎแห่งกรรมเป็นกฎอุดมคติของจิต แต่ก็มีเงื่อนไขหลายอย่างที่ทำให้อธิบายเหตุการณ์จริงได้ซับซ้อนขึ้น น่าสังเกตว่ากฎอุดมคติของจิตก็ต้องปรับเงื่อนไขเมื่อใช้กับเหตุการณ์จริง ตรงกันกับกฎอุดมคติของสสารของวิทยาศาสตร์อภิธรรมของพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ยังสอนเรื่อง รูป จิตเจตสิก นิพพาน โดยกล่าวว่า บัญญ้ติด้งกล่าวเป็นสิ่งมีจริง คล้ายกับเป็นอมตธรรม พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้ก็ยังมีอยู่นอกจากจะยืนยันว่ามีอมตธาตุแล้ว ยังยืนยันกฎอุดมคติของจิตชึ่งมีการสอนในหลักสูตรอภิธรรมจนยอมรับว่าเทียบเท่าปริญญาตรีใครจะทดสอบทดลองกฎของจิตที่ทำงานร่วมกับเจตสิกต่างๆ ก็ต้องใช้กระบวนการที่วางไวิในพุทธธรรมสระน้ำเด็กขอบตั้งการทดสอบ วิธีการทดสอบ ผลที่จะ ได้จะขึ้นกับเงื่อนไขที่วางไว้ น่าสังเกตว่าสระว่ายน้ำสูบลมขนาดใหญ่หลักการทดสอบเรื่องจิตมีระบบ ปัจจัยเงื่อนไขเป็นของตัวเอง คล้ายกับเอกลักษณ์ของการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ถึงตรงนี้ ข้าพเจ้ายังสงสัยว่า ทำไมพุทธบริษัทไทยไม่ชูธงกฎอุดมคติของจิตให้เป็นสัญลักษณ์สากล ให้เรื่องของจิตเป็นโลกาภิวัตน์เพมขึ๋นอีกเรืองหนึ่ง นักปราชญ์ของไทยก็พร้อมที่จะแสดงออกปราชญ์คนสำคัญเช่น ท่านพุทธทาสภิกขุ แห่งสวนโมขพลาราม ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) แห่งวัดญาณเวศกวัน และผู้ทรงคุณวุฒิ ของมหาวิทยาลัยสงฆ์อีกถึงสองแห่งโอกาสทองที่จะแสดงว่า “ธรรมศาสตร์’’ คือสระน้ำเด็กเป่าลมภาวะที่จิตของคนทั้งโลกรูดรงก้นนั้น มีเรียนมีสอนก้นในพุทธศาสตร์ และ“ธรรมศาสตร์’’ เป็นศาสตร์ช่วยดับทุกขใต้ชะงัดกว่า หรือไม่น้อยหน้าวิทยาศาสตร์รวมทั้งไม่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติในการพิสูจน์ทดลอง และทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ พิสูจน์เมื่อไรก็พร้อมเสมอเนื่องจากไม่ขึ้นกับกาลเวลา และถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญรู้จิตของตนเองดีแล้ว ก็รู้จักโลกดีเป็นของแถม ไม่ต้องเสียงบประมาณสร้างเครื่องมือโทรคมนาคมให้ประเทศต้องเป็นทาสทางเศรษฐกิจอีกด้วยต่อไปนี้ ขอให้ท่านใช้สามัญสำนึกเปรียบเทียบการทรงตัวสระน้ำเด็กโตของสสารระหว่างกฎของวิทยาศาสตร์ และของธรรมศาสตร์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การทรงตัวของสสารตามความรู้ของวิทยาศาสตร์ หรือตามที่จิตของเราแต่ละคนเห็นประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง ที่นึ่และเดี๋ยวนี้ 


สระน้ำสำเร็จรูป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น