วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

นักผลิตมักจะใช้สีผสมเพื่อใช้ในการทำพีวีซี

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า ไม่ทรงตั้งวังหน้าพระองค์ใหม่ เพราะทรงตั้ง พระทัยจะมอบราชลมป'ติให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที,ทรง ผนวชอยู่ตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์แล้ว ในการนี้ทรงตั้งกรมเจ้านายหลาย พระองค์ แพยางหงส์ราคา  หนึ่งในนั้นก็มีกรมหลวงรักษ์รณเรศอยู่ด้วยพระองค์หนึ่งว่ากันว่า กรมหลวงรักษ์รณเรศ (บิดาของ พระยาอนิรุทธเทวา) ทรงผิดหวัง และทรงมีพฤติกรรมในทำนองช่องสุมผู้คนไว้ ความทราบถึง พระเนตรพระกรรณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงโปรดเกล้าให้ชำระ คดีความกรมหลวงรักษ์รณเรศ และท่านได้ให้การในทำนองว่า “ไม่ได้คิด ร้ายต่อราชสมบิติฃองพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ แต่จะไม่ขอเป็น ข้าแผ่นดินของผู้ใดเมื่อเปลี่ยนแผ่นดินใหม่”นั่นถูกแปลความหมายว่าทรงหมายถึงว่าเมื่อสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้า อยู่หัวสวรรคต พระองค์ก็ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินเสียเอง พระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงให้ลงโทษด้งกล่าว ทั้งนี้ราชสกุลพึ่งบุญ ณ อยุธยาเข้ารับราชกาลในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ มากมายที่ได้ใกล้ชิดพระบาท สมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เช่น พระนมทัด พื่งบุญ ณ อยุธยา พระนมหรือแม่นมในพระองค์ เจ้าพระยารามราฆพและพระยา อนิรุทธเทวา เป็นต้น และนี่คิอ...ที่มาที่รั๋าลีอก้นว่าเจ้าที่ที่บ้านพิษณุโลก แรงก็เป็นได้  รัฐบาลจึงเปลี่ยนชื่อ “บ้านนรสิงห”เป็น “ทำเนียบสามัคคีชัย,’และ“ทำเนียบ รัฐบาล” ตามลำดับจากบ้านพิษณโลก ถึงบ้านนรสิงห์เมื่อย้อนให้ล๊กลงไปแล้ว เรื่องราวอาถรรพ์ไม่ได้มีเฉพาะ บ้าน พิษณุโลกเพียงแห่งเดียว เพราะบ้านนรสิงห์เป็นบ้านที่ล้นเกล้ารัชกาล ที่6มอบให้กับ2พี่น้องตระกูล “พี่งบุญ” พร้อมๆ กันอยู่ใกล้กันและ เรื่อมโยงกัน“บ้านนรสิงห์” เป็นบ้านที่มีสถาบ้ตยกรรมเก่าแก่ สง่างามอีก หล้งไม่แพ้บ้านพิษณุโลก ที่สำด้ญที่บ้านหล้งนี้เป็นบ้านของผู้ที่เป็น พี่ชายของ ห่วงยางลำใหญ่หงส์  พระยาอนิรุทธเทวา คือ พลเอก พลเรือเอก เจ้าพระยา รามราฆพ หรือ หม่อมหลวง เพี่อ พี่งบุญโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระราช ทานที่ดินและราชทรัพย์ปลูกสร้างให้เพราะเคยเป็นผู้สำเร็จราชการเป็น มหาดเล็ก และผู้บัญชาการมหรสพ ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ถวาย งานใกล้ชิด โปรดให้เป็นหัวหน้าห้องพระบรรทมนั่งร่วมโต๊ะเสวย ทั้งมื้อ กลางวันกลางคืนตลอดรัชกาลและตามเสด็จโดยลำพัง เป็นที่ไว้วางพระ ราชหฤทัยชื่อบ้านนรสิงห์ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นชื่อพระราชทาน หรือ เจ้าของบ้านตั้งชื่อขึ้นเอง คาดว่าเนื่องจากเจ้าพระยารามราฆพ เคยดำรง ตำแหน่งผู้บัญชาการกรมมหรสพ ซึ่งมีตราเป็นรูปนรสิงห์อันเป็นปางหนึ่งของ พระนารายณ์อวตาลลงมาปราบยักษ์หิรัญยกคิปุ แต่เดิมเคยมีรูปปันนรสิงห์ เต็มตัว ตั้งอยู่กลางสนามหญ้าหน้าตึกไกรสรหรือตึกไทยคู่ฟ้า ปัจจุบันไม่ปรากฏว่า แยางสูบลมราคาถูก เคลื่อนย้ายไปอยู่ที่ใด ต่อมาราว ต้นปี 2484 ระหว่างสงครามมหาเอเชียใ,]รพา ญี่ปุนได้เจรจาของชื้อ หรือ เช่า บ้านนรสิงห์'ทำเป็นสถาน'ฑูตญี่ปุนประ'จำประเทศ1ไทย ด้วยเหตุว่ามีความ สวยงามยิ่ง และต่อมาเดือนมีนาคม พ.ศ. 2484 เจ้าพระยารามราฆพ เจ้าของบ้าน ได้ปรึกษาผู้เป็นน้องคือ พระยาอนิรุทธเทวาที่บ้าน,พิษณุโลก ถึง เรื่องการตัดสินใจขายบ้าน

แพยางหงส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น