วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการกระโดดเชือกสามารถช่วยให้เลือดสูบฉีดและแข็งแรงได้

ลูกดิษย์คนหนึ่งของครูกรตัดสินใจไม่เกรงคำสาป ของครูกร เพราะหนึ่งหวังจะไดใกล้รดกับแพรว ลูกสาวคนสวย ของครูเอื้องที่ตนหมายปองไว้นั่นเองตอนที่หนึ่งตัดสินใจไปอยู่กับครูเอื้องนั้น หนึ่งได้เล่าคำสาปและ เหตุการณ์ต่างๆ อุปกรณ์ลดน้ำหนัก  ของครูกรให้ครูเอื้องฟัง แต่ครูเอื้องไม่สนใจ และคิด ว่าตนนึ่แหละที่จะล้างคำสาปของครูกรให้ได้และจะทำให้กลองของตน โต่งด้งกว่ากลองของครูกรจนได้ครูเอื้องเริ่มทำงานของตน และเก็บกลองของครูกรเมื่อครั้งที่ปัา นวลเอาไปล้างไดใบหนึ่ง และเริ่มทำกลองตาม ตามด้นแบบกลองและ คำบอกเล่าของหนึ่งทันทีในที่สุดกลองใบแรกที่ครูเอื้องทำตามวิธีและลักษณะต่าง ๆ ของครูกรเสร็จสมบูรณ์แต่สุขภาพของครูเอื้องกลับแย่ลงทุกวัน ๆ ตั้งแต่เริ่มปวดเมื่อยจนกระทั่งป่วยเป็นอัมพาต พูดไม่ชัด เดิน ไม่ได้ ต้องนอนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับครูกรไม่มีผิดส่วนหนึ่งนั้นก็เริ่มรู้สึก และนึกถึงคำสาปของครูกรมากขึ้นแต่ ความรักของตนยังไม่สมหวัง ตนก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะช่วยครู เอื้องนับวันความใกล้ชิดก็ยิ่งทำให้แพรวกับหนึ่งใกล้ชิดกัน และใน ที่สุดก็ได้เสียกันจนแพรวท้อง ครูเอื้องเสียใจมาก เหมือนกับหนึ่งนั้น เป็นคนกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา แต่ตนก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
แก้ว รพใแ: อาการของครูเอื้องไม่ได้ดีขึ้นเลย มีแต่ทรุดหนักขึ้นทุกวันๆ อีก ทั้งเรื่องร้าย ๆ ก็มีมากขึ้นด้วยทุกวันโดยเฉพาะป้าพรภรรยาของครูเอื้อง แกมีชู้กับตาแม้นช่างทำกลองในบ้าน ทำให้ครูเอื้องเสียใจมาก จน อาการ ทรุดหนักขึ้นกว่าเดิม พูดก็ไม่ได้  กระโดดเชือกราคา ได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว กลองของครูเอื้องขายไม่ได้ แถมไม่มีใครสนใจทำกลองต่อ มี แต่คนคิดแต่เรื่องตัวเองทั้งสิ้นอยู่มาไม่นานป้าพรก็เสียชีวิตเพราะถูกตาแม้นฆ่าตาย เนื่องจาก ป้าพรไม่ให้เงินที่ตาแม้นขอ งานศพของป้าพรมีเพียงหนึ่งกับแพรว และ ลูกศิษย์ครูเอื้อง 2-3 คน เท่านั้นที่ไปร่วมงานดูเหมือนว่าครอบครัวของครูเอื้องจะยิ่งตกตาลอชีววิทยางทุกวันเพราะมี แต่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของคนในบ้านครูเอื้องทั้งสิ้นวันหนึ่งขณะที่แพรวกำลังจะไปซักผ้าที่ท่านั้า แพรวลื่นจน ต้องแท้งลูก ครั้งนั้นนับเป็นความสูญเสียอีกครั้งหนึ่งของ ครอบครัวครูเอื้องหนึ่งพาแพรวไปส่งโรงพยาบาล พอกลับมาที่บ้านก็พบว่าบ้าน ของครูเอื้องกำลังถูกไฟไหม้ และแน่นอนครูเอื้องอยู่ในบ้าน แต่หนึ่งก็ ไปช่วยไม่ทัน เพราะพอจะเข้าไปช่วย ก็พบว่าร่างของครูเอื้องมอดไหม้ หมดแล้วหนึ่งได้แต่ทวนคิดถึงภาพของครูกร เมื่อครั้งที่ถูกไฟคลอกภาพ นั้นไม่ต่างอะไรกับภาพของครูเอื้องตอนนี้เลย หนึ่งคิดถึงคำสาปแช่ง เรื่องการทำกลองของครูกรเพราะดูเหมือนว่าคำพูดของครูกรกำลังเป็น จริงแล้ว คนขนหนงย่านรังสิฅ ชงรทร้างใครๆ เหนทคงไม่เชอว่า เจ้าของหำไมถงปอ่อยรทร้าง เชือกกระโดดลดน้ำหนัก  ชงความจร้งแอ่วทอยูใน หหเจท]รายอ่อมค้วยฅทนสะบานจ้คสรรจำนวนมาท เป็นไป ไมไค้หจะไม่หำประโยซน!คๆ ใหทบเจ้าของเสยแต่เดิมที่ดินผืนนี้ไม่ได้รกร้างอย่างนี้หรอก เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ที่ดินตรงนี้เคยเป็นตลาดเก่า แต่ก็ไม่นานต้องกลายเป็นสถานที่รกร้าง เพราะเหตุไฟไหม้นั่นเอง และก็ไม่มีใครกล้าทำกิจการอะไรมาจนถึง ทุกวันนี้อดีตพ่อผมเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในที่ดินผืนนี้ แต่ตอนนี้พ่อ ไม่เคยคิดอยากจะได้ที่ดินผืนนี้อีก เพราะที่ดินผืนนี้มีตำนานที่พ่อผม ไม่อยากจดจำพ่อเล่าให้ผมฟังว่าแต่เดิมคุณย่าเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โตมีโรงสี 5 โรง และก็มีโรงงานเย็บผ้าในกรุงเทพฯ 1 แห่ง และจังหวัดลพบุรีอีก 1 แห่งครอบครัวก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีฐานะค่อนข้างรารวยพอสมควร พ่อของผมบอกว่าชีวิตไม่เคยลำบากเลยแม้แต่น้อยพ่อบอกว่าคุณย่าเป็นคนเก่ง พอมาเจอกับคุณป่ตอนนั่นคุณย่า

เชือกกระโดด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น